ประวัติหลวงพ่อโปร่ง โชติโก วัดถ้ำพรุตะเคียน ท่าแซะ จ.ชุมพร หรือ พระครูโสตถยาธิคุณ ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์อีกรูปหนึ่ง ส่วนใหญ่แล้วพระเครื่องและวัตถุมงคลที่จัดสร้างออกมาก็เนื่องจากไม่อาจขัดศรัทธาของคณะศิษย์ ที่ต้องการนำมาบูชาเพื่อยึดเหนี่ยวจิตใจ ซึ่งก็มีประสบการณ์มากมาย แต่ท่านไม่เคยอวดโอ่ มีแต่พร่ำสอนไม่ให้ดำรงชีวิตด้วยความประมาท อย่ายึดมั่นถือมั่นเกิด แก่ เจ็บ ตาย ไม่มีใครหนีพ้น "หลวงพ่อโปร่ง โชติโก" หรือ "พระครูโสตถยาธิคุณ" เป็นพระเกจิอาจารย์อีกรูปหนึ่ง ที่มีความเคร่งครัดในพระธรรมวินัย และยังเป็นพระนักพัฒนา เป็นที่นับถือศรัทธาจากพุทธศาสนิกชนในจังหวัดชุมพร ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดถ้ำพรุตะเคียน ต.สลุย อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร
อัตประวัติ มีนามเดิมว่า โปร่ง อยู่กลัด เกิดเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2473 ที่ ต.ตลาดขวัญ อ.เมือง จ.นนทบุรี บิดา-มารดา ชื่อนายเปรื่อง และนางทองหล่อ อยู่กลัด มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันทั้งหมด 4 คน ตอนเป็นเด็ก ดำเนินชีวิตเหมือนเด็กทั่วไป เรียนประถมศึกษาตั้งแต่ชั้นประถม 1-3 ที่โรงเรียนวัดรางกำหยาด ต.บางภาษี อ.บางเลน จ.นครปฐม ส่วนชั้นประถมปีที่ 4 ท่านได้ย้ายมาเรียน ที่โรงเรียนชมนิมิต ต.บางจาก อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ปรากฏว่าเมื่อเรียนจบแล้ว ทางครอบครัวไม่มีเงินให้เรียนต่อในระดับสูงได้ จึงช่วยครอบครัวทำไร่ทำนา หาเลี้ยงชีพ ครั้นอายุ 20 ปี เข้าพิธีอุปสมบทตามประเพณี ในช่วงพรรษาแรกไปเรียนกัมมัฏฐานกับหลวงปู่หลิม ที่วัดน้อย ต.บ้านโขด อ.เมือง จ.ชลบุรี ภายหลังมีผู้หญิงมาชอบพอ ท่านเห็นว่าจะอยู่ไม่ได้ จึงลาสิกขาออกมาใช้ชีวิตฆราวาส หลังจากสึกแล้วท่านก็ไปอยู่ที่หัวหิน ไปทำงานเป็นนายท้ายเรือตังเก ลากอวนอยู่ที่หัวหิน บางครั้งก็ไปลากถึงประเทศเขมร จากนั้นจึงมีครอบครัว โดยได้ลูกสาวตำรวจมาเป็นคู่ชีวิต มีบุตรด้วยกัน 3 คน ต่อมาท่านจึงได้คิดกลับมาอุปสมบทอีกครั้ง เมื่อปี พ.ศ.2519 ที่วัดนาขวาง ต.กาหลง อ.เมือง จ.สมุทรสาคร เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2519 มีพระครูสมุทรธรรมสุนทร (หลวงพ่อสุด) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระอาจารย์น้อย เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูพยนต์ เป็นพระอนุสาศนาจารย์
หลวงพ่อโปร่ง ท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดนาขวาง 1 พรรษา จากนั้นท่านขออนุญาตออกท่องธุดงค์ ช่วงแรกท่านเดินธุดงค์อยู่แถวภาคกลาง เพชรบุรี หัวหิน แล้วเดินจาริกไปเรื่อย จากนั้นเดินทางไปที่ชุมพร ไปจำพรรษาที่วัดถ้ำเขาพลู ที่ อ.ประทิว จ.ชุมพร ด้วยวัตรปฏิบัติอันน่าเลื่อมใส ทำให้ชาวบ้านเกิดความศรัทธาจึงได้ช่วยกันสร้างกุฏิไม้ให้ 1 หลัง สร้างศาลาเอาไว้ทำบุญ และฟังธรรม จนถึงปี พ.ศ.2528 ชาวบ้านได้ขอร้องท่านให้อยู่เพื่อเป็นที่พึ่งทางใจ โดยร่วมกันสร้างกุฏิไม้บนยอดเขาเพิ่มขึ้น และได้จัดตั้งเป็นสำนักสงฆ์ถ้ำพรุตะเคียน ในปี พ.ศ.2532 ได้เกิดพายุเกย์ขึ้นที่ จ.ชุมพร เกิดความเสียหายไปทั่ว ทั้งต้นไม้ขนาดใหญ่ถูกหักโค่นราบเป็นหน้ากลอง บ้านเรือนถูกพัดพังเสียหายจำนวนมาก หลังจากชาวบ้านได้ช่วยกันฟื้นฟูหมู่บ้าน อีกทั้งแรงศรัทธาพุทธศาสนิกชนจากทั่วสารทิศที่เดินทางมา จึงช่วยกันก่อสร้างพัฒนา สำนักสงฆ์ถ้ำพรุตะเคียน ทำให้มีกุฏิปูน จำนวน 30 หลัง กุฏิไม้ จำนวน 31 หลัง นอกจากนี้ พุทธศาสนิกชนยังร่วมกันสร้างศาลาการเปรียญ หอสวดมนต์ หอฉัน ศาลาอเนกประสงค์ พระพุทธรูปองค์ใหญ่ หอระฆัง และพระอุโบสถ กระทั่งปี พ.ศ.2547 ได้รับการยกฐานะเป็นวัด เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. 2554
ด้วยความเป็นพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ เคร่งครัดพระธรรมวินัย ทำให้ชื่อเสียงของท่านเป็นที่รู้จักของพุทธศาสนิกชนในพื้นที่อย่างรวดเร็ว ในแต่ละวันมีผู้เลื่อมใสศรัทธา เดินทางมากราบนมัสการ รับฟังธรรม ประพรมน้ำพระพุทธมนต์จากท่านอย่างไม่ขาดสาย หลวงพ่อโปร่ง เป็นพระเถระที่ได้รับความเลื่อมใสศรัทธาจากชาวบ้าน ด้วยเป็นพระนักพัฒนาและพระนักอนุรักษ์ ในห้วงระหว่างที่ท่านเป็นเจ้าอาวาส ได้พัฒนาวัดและชุมชนรอบพื้นที่ จน
มีความเจริญก้าวหน้ามาจนทุกวันนี้